สิทธิประโยชน์และหน้าที่ขององค์กรสาธารณประโยชน์
ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 2546
----------------------------------------------------------------------------
พระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมมีจุดประสงค์เพื่อให้การรับรองและส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิหรือสมาคมที่มีวัตถุประสงค์ในการจัดสวัสดิการสังคมหรือองค์กรภาคเอกชนที่มีผลงานเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการสังคม ให้เข้ามามีส่วนร่วมและได้รับการส่งเสริมสนับสนุนตามกฎหมายในรูปองค์กรสาธารณประโยชน์
มูลนิธิ สมาคมหรือองค์กรภาคเอกชนที่ได้รับการรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ตามกฎหมาย จะได้รับสิทธิประโยชน์ มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ และอาจถูกเพิกถอนการรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ได้ ดังนี้
สิทธิประโยชน์
1. ได้รับการรับรองสถานะเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ตามกฎหมาย โดยได้รับใบสำคัญแสดงการเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ การประกาศแจ้งในราชกิจจานุเบกษา รวมทั้งสามารถใช้คำว่า (องค์กรสาธารณประโยชน์) ต่อท้ายชื่อองค์การได้
2. มีสิทธิเสนอชื่อผู้แทน เพื่อให้องค์กรสาธารณประโยชน์เลือกกันเองเป็นกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัด และคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมกรุงเทพมหานคร รวมทั้งได้รับการสรรหาเพื่อเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม
นอกจากนั้นยังจะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้เป็นอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการชุดต่าง ๆ
3. สิทธิประโยชน์ที่ได้ในการเป็นกรรมการและอนุกรรมการ ได้แก่ การได้รับเบี้ยประชุม สถานะของผู้แทนองค์กรสาธารณประโยชน์ในกรณีเป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดต่าง ๆ หรือเป็นประธานคณะอนุกรรมการจะเทียบเท่าข้าราชการระดับ 10 และกรณีเป็นอนุกรรมการ มีสถานะเทียบเท่าข้าราชการระดับ 8
4. รับทราบข้อมูลข่าวสาร และสามารถใช้บริการผ่านระบบฐานข้อมูลกลางด้านสวัสดิการสังคมตามกฎหมายได้
5. เข้าร่วมประชุม สัมมนาและการอบรมที่จัดให้มีขึ้นตามกฎหมาย
6. ขอรับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการจัดสวัสดิการสังคม ทั้งในส่วนขององค์การ นักสังคมสงเคราะห์ และอาสาสมัครขององค์กรสาธารณประโยชน์
7. เสนอโครงการเพื่อขอรับเงินอุดหนุนจากกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม
8. สิทธิประโยชน์อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการกำหนด เช่น
8.1 ข้าราชการลาไปเป็นอาสาสมัครช่วยงานองค์กรสาธารณประโยชน์โดยไม่ถือเป็นวันลา ปีละ 5 วันทำการ
8.2 ขอรับ software โปรแกรมต่างๆจากบริษัทไมโครซอฟโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และบุคลากรขององค์กรจะได้รับการอบรมการใช้โปรแกรมต่างๆจากบริษัท ซึ่งทางบริษัทจัดให้มีปีละ 1 ครั้ง
หน้าที่
1. ปฏิบัติตามข้อกำหนด ระเบียบ ประกาศ แผน แนวการจัดสวัสดิการสังคมและมาตรฐานการจัดสวัสดิการสังคมตามกฎหมาย
2. ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลและรายงานผลการปฏิบัติงาน
การเพิกถอนการรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์
หากมีพฤติการณ์ในการจัดสวัสดิการสังคมไม่สุจริต หรือจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบหรือไม่มีผลงานตามมาตรฐานที่คณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติกำหนด ให้คณะกรรมการมีอำนาจเพิกถอนการรับรองและให้ประกาศรายชื่อในราชกิจจานุเบกษา และส่งเงินอุดหนุนที่ได้รับคืน
-----------------------------------------
สิทธิประโยชน์และหน้าที่ขององค์กรสาธารณประโยชน์
ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม พ.ศ. 2546
----------------------------------------------------------------------------
พระราชบัญญัติส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมมีจุดประสงค์เพื่อให้การรับรองและส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิหรือสมาคมที่มีวัตถุประสงค์ในการจัดสวัสดิการสังคมหรือองค์กรภาคเอกชนที่มีผลงานเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการสังคม ให้เข้ามามีส่วนร่วมและได้รับการส่งเสริมสนับสนุนตามกฎหมายในรูปองค์กรสาธารณประโยชน์
มูลนิธิ สมาคมหรือองค์กรภาคเอกชนที่ได้รับการรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ตามกฎหมาย จะได้รับสิทธิประโยชน์ มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ และอาจถูกเพิกถอนการรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ได้ ดังนี้
สิทธิประโยชน์
1. ได้รับการรับรองสถานะเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ตามกฎหมาย โดยได้รับใบสำคัญแสดงการเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ การประกาศแจ้งในราชกิจจานุเบกษา รวมทั้งสามารถใช้คำว่า (องค์กรสาธารณประโยชน์) ต่อท้ายชื่อองค์การได้
2. มีสิทธิเสนอชื่อผู้แทน เพื่อให้องค์กรสาธารณประโยชน์เลือกกันเองเป็นกรรมการในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ คณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมจังหวัด และคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมกรุงเทพมหานคร รวมทั้งได้รับการสรรหาเพื่อเป็นกรรมการในคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม
นอกจากนั้นยังจะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งให้เป็นอนุกรรมการในคณะอนุกรรมการชุดต่าง ๆ
3. สิทธิประโยชน์ที่ได้ในการเป็นกรรมการและอนุกรรมการ ได้แก่ การได้รับเบี้ยประชุม สถานะของผู้แทนองค์กรสาธารณประโยชน์ในกรณีเป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดต่าง ๆ หรือเป็นประธานคณะอนุกรรมการจะเทียบเท่าข้าราชการระดับ 10 และกรณีเป็นอนุกรรมการ มีสถานะเทียบเท่าข้าราชการระดับ 8
4. รับทราบข้อมูลข่าวสาร และสามารถใช้บริการผ่านระบบฐานข้อมูลกลางด้านสวัสดิการสังคมตามกฎหมายได้
5. เข้าร่วมประชุม สัมมนาและการอบรมที่จัดให้มีขึ้นตามกฎหมาย
6. ขอรับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการจัดสวัสดิการสังคม ทั้งในส่วนขององค์การ นักสังคมสงเคราะห์ และอาสาสมัครขององค์กรสาธารณประโยชน์
7. เสนอโครงการเพื่อขอรับเงินอุดหนุนจากกองทุนส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม
8. สิทธิประโยชน์อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการกำหนด เช่น
8.1 ข้าราชการลาไปเป็นอาสาสมัครช่วยงานองค์กรสาธารณประโยชน์โดยไม่ถือเป็นวันลา ปีละ 5 วันทำการ
8.2 ขอรับ software โปรแกรมต่างๆจากบริษัทไมโครซอฟโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และบุคลากรขององค์กรจะได้รับการอบรมการใช้โปรแกรมต่างๆจากบริษัท ซึ่งทางบริษัทจัดให้มีปีละ 1 ครั้ง
หน้าที่
1. ปฏิบัติตามข้อกำหนด ระเบียบ ประกาศ แผน แนวการจัดสวัสดิการสังคมและมาตรฐานการจัดสวัสดิการสังคมตามกฎหมาย
2. ให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลและรายงานผลการปฏิบัติงาน
การเพิกถอนการรับรองเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์
หากมีพฤติการณ์ในการจัดสวัสดิการสังคมไม่สุจริต หรือจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบหรือไม่มีผลงานตามมาตรฐานที่คณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติกำหนด ให้คณะกรรมการมีอำนาจเพิกถอนการรับรองและให้ประกาศรายชื่อในราชกิจจานุเบกษา และส่งเงินอุดหนุนที่ได้รับคืน